
การสร้างแบบสอบถามงานวิจัย
การสร้างแบบสอบถามงานวิจัยที่มีประสิทธิผล จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับตัวแปรต้นและตัวแปรตามที่กำหนดไว้ตามกรอบแนวคิดงานวิจัยอย่างชัดเจน โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ว่าแต่ละตัวแปรมีมิติหรือองค์ประกอบใดบ้าง จากนั้นแปลงองค์ประกอบเหล่านั้นให้เป็นคำถามหรือข้อวัดที่สามารถสะท้อนพฤติกรรม ความคิด หรือทัศนคติของผู้ตอบได้อย่างตรงประเด็น คำถามควรสอดคล้องกับตัวบ่งชี้ของตัวแปร มีความชัดเจน ไม่กำกวม และใช้มาตรวัดที่เหมาะสม เช่น มาตร Likert เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลเชิงปริมาณได้อย่างน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ต้องผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่น เพื่อให้แน่ใจว่าแบบสอบถามที่สร้างขึ้นสามารถวัดตัวแปรต้นและตัวแปรตามได้อย่างถูกต้องตามที่งานวิจัยกำหนดไว้ในกรอบแนวคิดจริง ๆ

การสร้างแบบสอบถามงานวิจัยที่มีประสิทธิผล ควรดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
1. อ้างอิงกรอบแนวคิดงานวิจัย กำหนดชัดเจนว่าตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และองค์ประกอบของตัวแปรคืออะไร เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างข้อคำถาม
2. กำหนดวัตถุประสงค์ของแบบสอบถาม ระบุให้ชัดว่าแบบสอบถามนี้ต้องการเก็บข้อมูลเพื่อวัดสิ่งใด เช่น ทัศนคติ พฤติกรรม หรือความพึงพอใจ
3. ออกแบบข้อคำถามตามตัวบ่งชี้ แปลงแต่ละตัวบ่งชี้ของตัวแปรให้เป็นข้อคำถามที่เข้าใจง่าย กระชับ และตรงประเด็น
4. เลือกประเภทคำถามที่เหมาะสม เช่น คำถามปลายปิด (ใช้มาตร Likert หรือแบบเลือกตอบ) สำหรับงานเชิงปริมาณ และคำถามปลายเปิดสำหรับเชิงคุณภาพ
5. ใช้มาตรวัดที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เช่น มาตร 5 หรือ 7 ระดับ พร้อมอธิบายความหมายของแต่ละระดับให้ชัดเจน
6. ผสมคำถามเชิงบวกและเชิงลบอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันอคติจากการตอบแบบเออออไปเรื่อย (acquiescence bias)
7. หลีกเลี่ยงคำถามที่กำกวมและชี้นำ เขียนคำถามที่ใช้ภาษาเข้าใจง่าย ไม่ใช้ศัพท์เทคนิคเกินไป และไม่ชี้นำคำตอบ
8. จัดโครงสร้างแบบสอบถามอย่างเป็นระบบ เริ่มจากข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบ (demographic) แล้วจึงเข้าสู่คำถามตามตัวแปร และปิดท้ายด้วยคำถามปลายเปิด (ถ้ามี)
9. ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสมของคำถามว่าใช้วัดสิ่งที่ต้องการจริงหรือไม่
10. ทดสอบนำร่อง (Pilot Test) ทดลองใช้แบบสอบถามกับกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ ความชัดเจน และเวลาที่ใช้ในการตอบ
11. วิเคราะห์ความเชื่อมั่น (Reliability Test) ใช้สถิติ เช่น Cronbachs alpha เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องภายในของข้อคำถาม
12. ปรับปรุงและพัฒนาแบบสอบถาม แก้ไขข้อบกพร่องที่พบจากการทดสอบนำร่อง เพื่อให้ได้เครื่องมือที่มีคุณภาพสูงที่สุด
การสร้างแบบสอบถามที่ดีมีผลต่อการวิเคราะห์ข้อมูล อย่างไร ?
การสร้างแบบสอบถามที่ดีมีผลโดยตรงและสำคัญมากต่อการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ เพราะ เป็นส่วนประกอบของกระบวนการวิจัย หากแบบสอบถามออกแบบไม่ดี ข้อมูลที่ได้จะไม่สะท้อนความจริง และการวิเคราะห์ทางสถิติก็จะคลาดเคลื่อนตามไปด้วย โดยสามารถอธิบายได้ ดังนี้
1. ความเที่ยงตรง (Validity) : แบบสอบถามที่ดีต้องวัดสิ่งที่ต้องการวัดได้จริง หากคำถามไม่ชัดเจน ใช้ถ้อยคำกำกวม หรือไม่สอดคล้องกับตัวแปรที่ศึกษา ข้อมูลที่ได้จะไม่สะท้อนพฤติกรรมหรือทัศนคติที่แท้จริง ทำให้การวิเคราะห์เชิงสถิติ เช่น ค่าเฉลี่ย ความสัมพันธ์ หรือการทดสอบสมมติฐาน ไม่สามารถตีความได้อย่างถูกต้อง
2. ความเชื่อมั่น (Reliability) : แบบสอบถามที่ดีต้องให้ผลคงที่เมื่อใช้ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน หากแบบสอบถามไม่เสถียร (เช่น มีคำถามซ้ำซ้อน สับสน หรือชี้นำผู้ตอบ) จะทำให้ค่าความเชื่อมั่นของข้อมูลต่ำ ส่งผลให้การวิเคราะห์ เช่น การหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์หรือการถดถอย (Regression Coefficient) มีความแปรปรวนสูงและขาดความน่าเชื่อถือ
3. ความครบถ้วนของข้อมูล: แบบสอบถามที่ออกแบบอย่างรอบคอบจะช่วยลดการขาดหายของข้อมูล (Missing data) และเพิ่มอัตราการตอบกลับ ซึ่งทำให้ผลการวิเคราะห์ทางสถิติมีความสมบูรณ์ หากมีข้อมูลหายมากเกินไป อาจต้องใช้วิธีแทนค่าหรือคัดทิ้ง ทำให้ ผลการวิเคราะห์บิดเบือน
4. การเลือกใช้มาตราส่วนวัด (Measurement Scale): การเลือกใช้มาตราส่วนที่เหมาะสม เช่น Nominal, Ordinal, Interval, Ratio มีผลโดยตรงต่อชนิดของสถิติที่สามารถใช้ได้ เช่น
* หากวัดด้วยมาตราส่วนเรียงลำดับ (Ordinal) จะไม่สามารถใช้ค่าเฉลี่ยได้อย่างถูกต้อง
* หากออกแบบให้เป็นมาตราส่วนช่วง (Interval) จะสามารถใช้สถิติขั้นสูง เช่น การวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) หรือ การถดถอย (Regression) ได้
ดังนั้นการออกแบบคำถามและมาตราส่วนวัดที่เหมาะสมจะ เพิ่มความถูกต้องและความยืดหยุ่นในการวิเคราะห์
5. การลดอคติของผู้ตอบ (Response Bias) : แบบสอบถามที่ดีจะช่วยลดอคติ เช่น การตอบตามสังคมคาดหวัง (Social Desirability) หรือการตอบแบบเร่งรีบ ทำให้ข้อมูลที่ได้มีความบริสุทธิ์มากขึ้น และผลการวิเคราะห์สะท้อนความจริงได้ดีกว่า
สรุป : แบบสอบถามที่ดี คือรากฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง และข้อมูลที่ถูกต้อง คือ หัวใจของการวิเคราะห์ทางสถิติที่แม่นยำ